หลวงปู่มั่น เล่าเรื่อง อริยบุคคลในต่างประเทศ และความสมบูรณ์พร้อมของประเทศไทย



อริยบุคคลในต่างประเทศ และความสมบูรณ์พร้อมของประเทศไทย

หลวงปู่มั่น เล่าเรื่อง 
คำบอกเล่าของ หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต
เรื่องอริยบุคคลนี้ ท่านพระอาจารย์ปรารภไว้หลายสถานที่หลายวาระ ต่างๆ กันแล้วแต่เหตุ
ท่านเล่าว่า ชาวพุทธมีหลายประเทศ แต่จะขอกล่าวเฉพาะใกล้เคียง เขมร ลาว เวียดนาม และพม่า นอกนี้ไม่กล่าว
ท่านพระอาจารย์บอกว่า

"เราไม่ได้ว่าเขาเหล่านั้น แต่ได้พิจารณาแล้ว ไม่มีก็ว่าไม่มี มีก็ว่ามี"
ท่านพระอาจารย์หมายถึง พระอริยบุคคลในประเทศเหล่านี้
..มีที่ประเทศพม่าเพียงคนเดียว ..
คือ หมู่บ้านที่ท่านไปจำพรรษา เป็นผ้าขาว ที่ผู้เล่าเคยเล่าว่า บุตรสาว บุตรเขย และบุตรชายของตาผ้าขาวนั้นละ ที่มาจัดเสนาสนะของบิดาเขาถวายท่านพระอาจารย์และท่านเจ้าคุณบุญมั่น ครั้งจำพรรษาที่ประเทศพม่า...ท่านว่า
"ยกเว้นสยามประเทศแล้วนอกนั้นไม่มี"
"สำหรับสยามประเทศ ตั้งแต่บัดนั้นมาจนถึงปัจจุบัน มีติดต่อมาโดยไม่ขาดสาย ทั้งคฤหัสถ์ชายหญิงและบรรพชิต แต่มรรคขั้นต้นคฤหัสถ์มากกว่า ทั้งปริมาณและมีสิกขาน้อยกว่า"
ท่านเล่าต่อไปว่า เราไม่ได้ว่าเขา เราไม่ได้ดูหมิ่นเขา เพราะประเทศเหล่านั้นขาดความพร้อม คือ คุณสมบัติหลายอย่าง เช่น เรื่องอักขระ ที่ไม่เป็นพุทธภาษา คือ ฐานกรณ์วิบัติ และองค์ประกอบอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้ คือ องค์พระมหากษัตริย์ของประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนานี้ก็สำคัญ ขาดไม่ได้ ถ้าขาดไป อริยบุคคลก็ขาดไปด้วย
ท่านพระอาจารย์ว่า เมื่อพระพุทธเจ้าจะทรงประกาศพระศาสนา ทรงหาหลักค้ำประกันอันมั่นคง คือ มุ่งไปที่พระเจ้าพิมพิสาร ความสำคัญอันนี้มีมาตลอด หากประเทศใดไม่มีองค์ประกอบนี้ ซึ่งเป็นเอกอัครศาสนูปถัมภก ก็ปฏิเสธได้เลย
เปรียบเหมือนกับก้อนเส้า 3 ก้อน
ก้อนที่ 1 คือ ความเป็นชาติ
ก้อนที่ 2 มีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ
ก้อนที่ 3 มีองค์พระมหากษัตริย์เป็นเอกอัครศาสนูปถัมภก
หากขาดไปก้อนใดก้อนหนึ่ง ก็จะขาดความสมบูรณ์ไป ไม่สามารถจะใช้นึ่งต้มแกงหุงหาอาหารได้
ผู้เขียน..เราโชคดีขนาดไหนแล้ว โชคดีที่1 ได้เกิดเป็นมนุษย์
โชคดีที่2 ได้มานับถือศาสนาพุทธ โชคดีที่3 ได้เกิดในประเทศที่เหมาะสม
เพราะฉะนั้นขอให้มั่นใจในแนวทางปฏิบัติ ของพระองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ทางปฏิบัติมรรคผลเพื่อนิพพาน มีอยู่จริงถ้าเราเอาจริงเอาจัง มีพระรัตนตรัย เป็นที่พึ่งสูงสุด ก็จะสามารถถึงที่สุดแห่งกองทุกข์คือพระนิพพาน ได้ทุกท่าน ขออนุโมทนา ครับ

ติดตามเรื่องน่าอ่านอีกมากมาย ได้ที่ เพจนิทานธรรม
เพจ : www.facebook.com/Nitandham

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น