วันแม่ พระมหาคุณ 10 ประการ กว่ากำเนิดเลี้ยงดูลูกจนเติบใหญ่

"วันแม่"
พระมหาคุณ 10 ประการ กว่ากำเนิดเลี้ยงดูลูกจนเติบใหญ่
ปัญหา? การที่จะตอบสนองบุญคุณมารดาบิดาได้อย่างถูกต้องและเต็มที่นั้น บุตรธิดาควรจะทำอย่างไรบ้าง ?
พระมหาคุณ 10 ประการ เป็นความทุกข์ที่แม่แบกรับไว้ ดังที่พระพุทธองค์ ทรงตรัสสรรเสริญถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ว่า
ประการที่หนึ่ง พระคุณที่ปกปักรักษาขณะอยู่ในครรภ์ผูกปัจจัยเหตุสัมพันธ์ในอดีต จุติมาบังเกิดในครรภ์แม่
วันเดือนผ่านอวัยวะห้าเกิดขึ้นแล เจ็ดเจ็ดประสาทแท้เริ่มทำงานบัดนี้หนากายาหนักดั่งคีรี ยามเยื้องย่างดุจมีลมภัยต้านไม่ใส่ใจในอาภรณ์ผ้าแพรพรรณ ยามก้าวผ่านกระจกใสไม่ใยดี
ประการที่สอง พระคุณที่ทนรับความเจ็บปวดขณะคลอดสิบเดือนผ่านมารดาได้อุ้มครรภ์ วันคลอดอันทรมานใกล้แล้วหนาทุกค่ำเช้าดังป่วยหนักร้าวกายา ยามค่ำคืนเหมือนว่าจะเป็นลมยากจะเอ่ยถึงความกลัวได้หมดสิ้น น้ำตารินเต็มทรวงทุกข์ถาโถมบอกญาติมิตรให้รับรู้ความทุกข์ตรม ที่ระทมกลัวความตายมาพรากไป
ประการที่สาม พระคุณที่ให้กำเนิดอย่างปลอดภัยจนลืมทุกข์เมื่อถึงวันแม่กำเนิดทารกน้อย ใจมารดาปลดปล่อยผ่อนคลายได้ความร้อนรุ่มหายปลิดทิ้งกายาใจ เลือดที่ไหลดั่งแพะถูกปลิดชีวีทารกน้อยแข็งแรงยามกำเนิด จิตบังเกิดความปรีดาแสนสุขีความสุขสิ้นความทุกข์โถมเข้าแทนที่ ร้าวฤดีเจ็บปวดกายทรมาน
ประการที่สี่ พระคุณที่ละทิ้งความสุขทุกข์ทนกล้ำกลืนอันบุญคุณพ่อแม่แสนใหญ่หลวง เฝ้าเป็นห่วงดูแลมิขาดสายไม่ยอมเสพความสุขทุกข์มิวาย ยามไม่สบายทนกล้ำกลืนไม่พร่ำบ่นด้วยความรักผูกพันนั้นมากมาย บุญคุณที่มอบให้มากเหลือล้นหวังเพียงให้ลูกน้อยอิ่มชื่นกมล แม่ยอมทนต่อความหิวไม่เป็นไร
ประการที่ห้า พระคุณที่เสียสละปลีกจากที่แห้งทนอยู่ที่เปียกแม่ยินยอมให้กายแม่ทับที่ชื้น เพื่อย้ายลูกแม่คืนที่แห้งไซร้ปทุมถันสองข้างยามกระหาย สองแขนป้องมิให้ลมหนาวกรายบุญคุณแห่งความอาทรมีมากล้น ปนระคนความปีติมีมอบให้เพียงเพื่อเจ้าลูกน้อยได้อุ่นใจ แม่นั้นไซร้ไม่ใฝ่หาความสบาย
ประการที่หก พระคุณของค่าน้ำนมและเฝ้าเลี้ยงดูด้วยความทนุถนอมความเมตตาของแม่ดั่งพสุธา ท้องนภาคุณบิดานั้นเทียบเท่าดินและฟ้าปกคลุมทั่วทุกลำเนา คุณบิดามารดาเฉกเช่นกันไม่ถือโกรธรังเกียจหรือเคียดแค้น ลูกขาแขนไม่ครบไม่เดียดฉันท์ถือเป็นบุตรในสายเลือดสายสัมพันธ์ ชั่วนิรันดร์เฝ้าห่วงแหนแลอาทร
ประการที่เจ็ด พระคุณที่คอยเฝ้าเพียรทำเพื่อลูกจนลืมดูแลตัวเองดั้งเดิมทีแม่งดงามดั่งอุบล กายกมลขวัญชีวาเปี่ยมสดใสคิ้วคมโค้งดุจกิ่งหลิวพริ้วไสว โฉมหน้าไซร้แรกแย้มดั่งโกมุทเฝ้ากล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดูมิเหนื่อยล้า คอยรักษาชำระล้างมิยอมหยุดเพื่อลูกน้อยไม่หวั่นต่อความทุกข์ กายแม่ทรุดเปลี่ยนโฉมไปร่วงโรยราประการที่แปด พระคุณที่คอยคิดถึงห่วงหายามจากไกลความตายจากพลัดพรากยากรับไหว แต่ยามอยู่ต้องจากไกลให้แสนเศร้ายิ่งเป็นห่วงลูกออกพ้นผ่านขุนเขา ณ บ้านเราแม่เฝ้าคอยคะนึงหาใจจดจ่อทุกวันติดตามข่าว ใจปวดร้าวทุกครารินน้ำตาดุจวานรถูกพรากจากลูกยา ใจนั้นหนาแทบมลายสลายลง
ประการที่เก้า พระคุณที่เฝ้าคำนึงติดตามเอาใจใส่อันบุญคุณพ่อแม่สุดวาดวัด เหลือคณานับยากทดแทนเป็นหนักหนาลูกพบทุกข์แม่รับแทนทุกเพลา ลูกตรากตรำมารดายิ่งร้อนรนได้ยินว่าออกจากบ้านเดินทางไกล ห่วงอาลัยลูกเหน็บหนาวกรำลมฝนลูกลำบากเพียงชั่วคราวชั่วบัดดล แม่ร้าวราญในกมลชั่วนิรันดร์
ประการที่สิบ พระคุณที่ให้ความรักใคร่ผูกพันอย่างลึกซึ้งอันบุญคุณพ่อแม่สูงส่งนัก มิเคยพักห่วงอาทรแม้นเหนื่อยล้าใจพะวงห่วงลูกทุกเพลา เฝ้าตามมาดูแลทั้งใกล้ไกลแม่ชราอายุเกือบหนึ่งร้อย แต่ยังคอยห่วงลูกแปดสิบได้หากอยากรู้ว่ารักนี้สิ้นยามใด เมื่อชีพวายพลัดพรากดับม้วยมรณ์
วิธีตอบแทนคุณบิดามารดาที่ถูกต้อง
ปัญหา การที่จะตอบสนองบุญคุณมารดาบิดาได้อย่างถูกต้องและเต็มที่นั้น บุตรธิดาควรจะทำอย่างไรบ้าง ?
พุทธดำรัสตอบ “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การที่จะตอบแทนคุณแก่บุคคลทั้ง ๒ คือ มารดา ๑ บิดา ๑ เรากล่าวว่ากระทำไม่ได้ง่ายเลย
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุตรพึงแบกมารดาด้วยบ่าข้างหนึ่ง แบกบิดาด้วยบ่าข้างหนึ่ง เขามีอายุมีชีวิตอยู่ตลอดร้อยปี และพึงปฏิบัติบำรุงทั้ง ๒ ด้วยการอบกลิ่น การนวด การให้อาบน้ำ และการบีบนวดอวัยวะต่าง ๆ แก่ท่านทั้งสอง แม้ท่านทั้ง ๒ ก็พึงถ่ายอุจจาระบนบ่านั่นเอง ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่ชื่อว่าตอบแทนบุญคุณแก่มารดาบิดา
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง บุตรพึงตั้งมารดาไว้ในราชสมบัติ มีอำนาจยิ่งใหญ่ในแผ่นดินใหญ่ อันมีรัตนะ ๗ ประการมากหลายนี้ แม้กระนั้นก็ยังไม่ชื่อว่าตอบแทนคุณมารดาบิดา ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะมารดาบิดามีอุปการะมาก เป็นผู้บำรุงเลี้ยง เป็นผู้สอนให้ลูกรู้จักโลก
“ส่วนบุตรคนใด ทำให้มารดาบิดาผู้ไม่มีศรัทธาให้สมาทานตั้งมั่นในสัทธาสัมปทา ให้มารดาบิดาผู้มีทุศีลสมาทานตั้งมั่นในสีลสัมปทา ให้บิดามารดาผู้มีความตระหนี่สมาทานตั้งมั่นในจาคสัมปทา ให้มารดาบิดาผู้ทรามปัญญา สมาทานตั้งมั่นในปัญญาสัมปทา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ด้วยเหตุมีประมาณเท่านั้น และบุตรย่อมชื่อว่าเป็นผู้อันกระทำตอบแทนบุญคุณแก่มารดาบิดา
----------------------------------------------------------------------------------
ที่มา http://84000.org/true/569.html
----------------------------------------------------------------------------------
ติดตามเรื่องน่าอ่านอีกมากมาย ได้ที่ เพจนิทานธรรม
เพจ : www.facebook.com/Nitandham
เว็บไซค์ : http://nitandham.blogspot.com
Youtube : https://goo.gl/F27gUr
เข้าร่วมกลุ่มของเราได้ที่
https://www.facebook.com/groups/Nitandham/
----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น